Skip to content

artewon681

ผลสวย ไม่บิดเบี้ยว บำรุงด้วยอะไรดี?

ผลสวย คุณภาพดี บำรุงด้วยอะไรดี? สุขภาพของพืชนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญมากในภาคการเกษตร โดยทั้งพืชและผลไม้ต่างก็ต้องการใช้สารอาหารที่สำคัญจะช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโต แคลเซียมและโบรอน คือ สารอาหารหรือธาตุอาหารที่สำคัญและมีความจำเป็นต่อพืชและผลไม้ทุกชนิด ซึ่งถ้าไม่มีชนิดใดชนิดหนึ่งก็จะทำให้พืชนั้นเกิดการอ่อนแอ แต่สารทั้ง 2 ชนิดนั้นต่างก็เป็นสารที่ต้องพึ่งพิงกันและกัน จึงมีส่วนช่วยในการลดความผิดปกติทางกายภาพของพืชได้ดียิ่งขึ้น ทำให้พืชผักและผลไม้มีคุณภาพและเติบโตได้แข็งแรงสมบูรณ์ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตัวแคลเซียมโบรอนนี้จะเข้าไปช่วยในเรื่องของการเพิ่มผลผลิตให้กับพืช ผลไม้ ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการผสมเกสร ลดการหลุดร่วงของขั้วดอกและผล เพิ่มขนาดของผลผลิตให้มีคุณภาพและใหญ่มากขึ้น กระตุ้นการแตกตาของดอก อีกทั้งยังช่วยให้พืชนั้นมีการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น อาการของพืชที่ขาดแคลเซียม จะพบมากในช่วงที่ยอดใบเจริญเติบโตใหม่ๆ จะมีอาการหงิกม้วนงอ และจะขาดเป็นริ้วๆ ตายอดจะไม่เจริญ หรืออาจมีจุดดำที่เส้นใบ รวมไปถึงรากที่สั้นกว่าปกติ และยอดอ่อนจะเริ่มแห้งตาย หากพืชผักหรือผลไม้ที่ขาดธาตุโบรอน ตัวผลผลิตจะมีขนาดเล็กกว่าที่ควรเป็น รวมถึงมีเปลือกที่หนาจนเกิดอาการแตกขึ้นมาทำให้เป็นแผล และผลผลิตที่ได้อาจจะเกิดโรค และเน่าตาย

แมกนีเซียม สำคัญต่อพืชอย่างไร?

แมกนีเซียม เป็นธาตุอาหารรองที่มีความสำคัญต่อพืช เนื่องจากแมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบชองคลอโรฟิลล์ที่เป็นส่วนสีเขียวในส่วนต่างๆ ของพืช ช่วยเสริมสร้างให้พืชสังเคราะห์ด้วยแสงได้ดี มีการเจริญเติบโตและพัฒนาการไปตามปกติ แต่ท่านสามารถพบเห็นพืชที่มีอาการขาดแมกนีเซียมได้ทั่วไป โดยเฉพาะในพื้นที่ ที่ดินเป็นกรด ทำให้แมกนีเซียมเป็นประโยชน์ต่อพืชได้น้อยลง หน้าที่ของธาตุแมกนีเซียม -ช่วยเสริมสร้างสารคลอโรฟิลล์ หรือความเขียวในพืช ช่วยให้พืชปรุงอาหารได้ดีขึ้น -ช่วยในการเคลื่อนย้ายธาตุฟอสฟอรัสได้ดีขึ้น และเพิ่มการใช้ธาตุเหล็กได้มากขึ้น -ช่วยกระตุ้นการทำงานของน้ำย่อยต่างๆ ในพืช -ช่วยเสริมสร้างให้พืชไม่ชะงักการเจริญเติบโตในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น -ช่วยเสริมสร้างให้พืชมีความต้านทานต่อโรคพืชต่างๆ มีส่วนสำคัญในการสุกการแก่ของผลผลิต อาการของพืชที่ขาดแมกนีเซียม จะเกิดในใบแก่ก่อน เกิดอาการซีดในพื้นที่ใบที่อยู่ระหว่างเส้นใบ ในขณะที่เส้นใบยังคงเขียวอยู่ อาการซีดจะเกิดที่บริเวณใกล้เส้นกลางใบก่อนแล้วลามไปที่ปลายใบ และใบร่วงหล่นเร็ว ทำให้ผลผลิตลดน้อยลง และต้นพืชทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด